 
- พระราชบัญญัติการประปาส่วนภูมิภาค ที่ใช้ในปัจจุบันเป็นฉบับที่เท่าใด
- ฉบับที่ 1                                                               ค. ฉบับที่  3
- ฉบับที่ 2                                                               ง. ฉบับที่  4
ตอบ    ค. ฉบับที่  3
- พระราชบัญญัติการประปาส่วนภูมิภาค (ฉบับที่ 3) อยู่ในปี พ.ศ.ใด
- พ.ศ. 2550 ค. พ.ศ. 2552
- พ.ศ. 2551 ง. พ.ศ. 2553
ตอบ   ก. พ.ศ. 2550
- พระราชบัญญัติการประปาส่วนภูมิภาค (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2550 ให้ไว้ ณ วันใด
- 17 สิงหาคม  2550                                            ค. 19  สิงหาคม  2550
- 18 สิงหาคม  2550                                            ง. 20  สิงหาคม  2550
ตอบ   ก. 17  สิงหาคม  2550
- พระราชบัญญัติการประปาส่วนภูมิภาค (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2550 ประกาศในราชกิจจานุเบกษาเมื่อใดก. 19  สิงหาคม  2550                                    ค. 24  สิงหาคม  2550
ข. 23  สิงหาคม  2550                                               ง. 25  สิงหาคม  2550
ตอบ   ค. 24  สิงหาคม  2550
- พระราชบัญญัติการประปาส่วนภูมิภาค (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2550 มีกี่มาตรา
- 5 มาตรา                                                               ค. 2  มาตรา
- 10 มาตรา                                                             ง. 3  มาตรา
ตอบ   ง. 3  มาตรา
- พระราชบัญญัติการประปาส่วนภูมิภาค (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2550  ให้ยกเลิกความในมาตราใด แห่งพระราชบัญญัติการประปาส่วนภูมิภาค พ.ศ. 2522
- มาตรา 40                                                             ค. มาตรา  45
- มาตรา 52                                                             ง. มาตรา  48
ตอบ   ง. มาตรา  48
มาตรา ๓  ให้ยกเลิกความในมาตรา ๔๘ แห่งพระราชบัญญัติการประปาส่วนภูมิภาค พ.ศ. ๒๕๒๒ และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน
“มาตรา ๔๘  กปภ. ต้องได้รับความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีก่อนจึงจะดำเนินการ ดังต่อไปนี้ได้
(๑) เพิ่มหรือลดทุน
(๒) กู้ยืมเงินมีจำนวนเกินห้าสิบล้านบาทหรือให้กู้ยืมเงินมีจำนวนเกินห้าล้านบาท
(๓) ออกพันธบัตรหรือตราสารอื่นใดเพื่อการลงทุน
(๔) จำหน่ายอสังหาริมทรัพย์อันมีราคาเกินห้าล้านบาท
(๕) ถือหุ้นหรือเข้าเป็นหุ้นส่วนหรือร่วมกิจการกับบุคคลอื่นเพื่อประโยชน์แก่การประกอบและส่งเสริมธุรกิจของ กปภ.”
- ข้อใดคือเหตุผลในการประกาศใช้พระราชบัญญัติการประปาส่วนภูมิภาค (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2550
- กฏหมายฉบับเดิมมีบทบัญญัติบางประการไม่เหมาะสมกับสภาวการณ์ทางเศรษฐกิจ และสังคมในปัจจุบันที่เปลี่ยนแปลงไป
- รัฐบาลมีนโยบายที่จะปรับปรุงและขยายกิจการประปาในส่วนภูมิภาคให้ดียิ่งขึ้น
- กฎหมายเดิมมีบทบัญญัติให้มอบข้อพิพาทให้อนุญาโตตุลาการวินิจฉัย
- ไม่มีข้อถูก
ตอบ  ก. กฏหมายฉบับเดิมมีบทบัญญัติบางประการไม่เหมาะสมกับสภาวการณ์ทางเศรษฐกิจ และสังคมในปัจจุบันที่เปลี่ยนแปลงไป
- พระราชบัญญัติการประปาส่วนภูมิภาค (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2530 มีกี่มาตรา
- 4 มาตรา                                                               ค. 6  มาตรา
- 3 มาตรา                                                               ง. 5  มาตรา
ตอบ    ข. 3  มาตรา
- พระราชบัญญัติการประปาส่วนภูมิภาค (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2530 ให้ไว้ ณ วันใด
- 20 กรกฎาคม . 2530ค. 19  สิงหาคม  2530
- 14 กรกฎาคม . 2530ง. 20  สิงหาคม  2530
ตอบ   ง. 20  สิงหาคม  2530
- พระราชบัญญัติการประปาส่วนภูมิภาค (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2530 ประกาศในราชกิจจานุเบกษาเมื่อใด
- 20 กรกฎาคม . 2530ค. 19  สิงหาคม  2530
- 14 กรกฎาคม . 2530ง. 20  สิงหาคม  2530
ตอบ   ค. 19  สิงหาคม  2530

- พระราชบัญญัติการประปาส่วนภูมิภาค (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2530 มีผลบังคับใช้วันใด
- 20 กรกฎาคม 2530                                            ค. 19  สิงหาคม  2530
- 14 กรกฎาคม 2530ง. 20  สิงหาคม  2530
ตอบ   ง. 20  สิงหาคม  2530
มาตรา 2 พระราชบัญญัตินี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษา เป็นต้นไป
- ข้อใดคือเหตุผลในการประกาศใช้พระราชบัญญัติการประปาส่วนภูมิภาค (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2530
- รัฐบาลมีนโยบายที่จะปรับปรุงและขยายกิจการประปาในส่วนภูมิภาคให้ดียิ่งขึ้น
- กฏหมายฉบับเดิมมีบทบัญญัติบางประการไม่เหมาะสมกับสภาวการณ์ทางเศรษฐกิจ และสังคมในปัจจุบันที่เปลี่ยนแปลงไป
- กฏหมายฉบับเดิมมีบทบัญญัติให้มอบข้อพิพาทให้อนุญาโตตุลาการวินิจฉัยกฎและให้นำกฏหมายว่าด้วยการเวนคืนอสังหาริมทรัพย์มาบังคับใช้แต่กฏหมายดังกล่าวได้ยกเลิกบทบัญญัติว่าด้วยอนุญาโตตุลาการไปแล้ว
- เพื่อให้การประปาส่วนภูมิภาคสามารถดำเนินการได้อย่างคล่องตัวยืดหยุ่น
ตอบ   ค. กฏหมายฉบับเดิมมีบทบัญญัติให้มอบข้อพิพาทให้อนุญาโตตุลาการวินิจฉัยกฎและให้นำกฏหมายว่าด้วยการเวนคืนอสังหาริมทรัพย์มาบังคับใช้แต่กฏหมายดังกล่าวได้ยกเลิกบทบัญญัติว่าด้วยอนุญาโตตุลาการไปแล้ว
- พระราชบัญญัติการประปาส่วนภูมิภาค พ.ศ. 2522 ให้ไว้ ณ วันใด
- 24 มกราคม  2522                                             ค. 24  กุมภาพันธ์ 2522
- 25 มกราคม  2522                                            ง. 25  กุมภาพันธ์ 2522
ตอบ   ค. 24  กุมภาพันธ์ 2522
- พระราชบัญญัติการประปาส่วนภูมิภาค พ.ศ. 2522 มีกี่หมวด  กี่มาตรา
- 5 หมวด  50  มาตรา  1  บทเฉพาะกาล       ค. 6  หมวด  50  มาตรา 1  บทเฉพาะกาล
- 5 หมวด  55  มาตรา  1  บทเฉพาะกาล        ง. 6  หมวด  55  มาตรา  1  บทเฉพาะกาล
ตอบ   ง. 6  หมวด  55  มาตรา  1  บทเฉพาะกาล
- ใครเป็นผู้รักษาการตามพระราชบัญญัติการประปาส่วนภูมิภาค พ.ศ. 2522
- รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ค. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม
- รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ง. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์
ตอบ   ข. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย
- “การประปาส่วนภูมิภาค” เรียกโดยย่อว่าอะไร
- กปน. ค. กปฟ.
- กปภ. ง. กปป.
ตอบ    ข. กปภ.
มาตรา ๕ ให้ จัดตั้งการประปาขึ้นเรียกว่า “การประปาส่วนภูมิภาค” เรียกโดยย่อว่า “กปภ.” และให้เป็นนิติบุคคล มีวัตถุประสงค์ในการประกอบและส่งเสริมธุรกิจการประปาโดยการสำรวจ จัดหาแหล่งน้ำดิบ และจัดให้ได้มาซึ่งน้ำดิบ เพื่อใช้ในการผลิต จัดส่งและจำหน่ายน้ำประปารวมทั้งการดำเนินธุรกิจอื่นที่เกี่ยวกับหรือต่อ เนื่องกับธุรกิจการประปา เพื่อให้เกิดประโยชน์แก่การให้บริการสาธารณูปโภค โดยคำนึงถึงประโยชน์ของรัฐและสุขภาพอนามัยของประชาชนเป็นสำคัญ
- ข้อใดคืออำนาจหน้าที่ของ กปภ.
- สำรวจ วางแผน และพัฒนาแหล่งน้ำดิบ ตลอดจนจัดให้ได้มาซึ่งน้ำดิบ
- สำรวจ วางแผน และสร้างระบบการผลิต การส่ง และการจำหน่ายน้ำประปา
- ถือกรรมสิทธิ์หรือมีสิทธิครอบครองหรือทรัพยสิทธิต่าง ๆ
- ถูกทุกข้อ
ตอบ   ง. ถูกทุกข้อ
มาตรา ๗ ให้ กปภ. มีอำนาจกระทำกิจการต่าง ๆ ภายในขอบแห่งวัตถุประสงค์ตามมาตรา ๕ และอำนาจเช่นว่านี้ให้รวมถึง
(๑) ถือกรรมสิทธิ์หรือมีสิทธิครอบครองหรือทรัพยสิทธิต่าง ๆ สร้าง ซื้อ จัดหา ขาย จำหน่าย เช่า ให้เช่า เช่าซื้อ ให้เช่าซื้อ ยืม ให้ยืม รับจำนำ รับจำนอง แลกเปลี่ยน โอน รับโอน หรือดำเนินการใด ๆ เกี่ยวกับทรัพย์สิน ทั้งในและนอกราชอาณาจักร ตลอดจนรับทรัพย์สินที่มีผู้อุทิศให้
(๒) สำรวจ วางแผน และพัฒนาแหล่งน้ำดิบ ตลอดจนจัดให้ได้มาซึ่งน้ำดิบ
(๓) สำรวจ วางแผน และสร้างระบบการผลิต การส่ง และการจำหน่ายน้ำประปา
(๔) กำหนดราคาจำหน่ายน้ำประปา อัตราค่าบริการ ค่าเครื่องอุปกรณ์ และค่าสิ่งอำนวยความสะดวก ตลอดจนวิธีการและเงื่อนไขในการชำระราคาและค่าตอบแทนดังกล่าว
(๕) กำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการใช้น้ำประปา เพื่อประโยชน์ในการให้บริการสาธารณูปโภค
(๖) กำหนดระเบียบเกี่ยวกับการใช้และบำรุงรักษาทรัพย์สินของ กปภ.
(๗) กู้หรือยืมเงินภายในและภายนอกราชอาณาจักร
(๘) ให้กู้หรือให้ยืมเงินโดยมีหลักประกันด้วยทรัพย์สินเพื่อประโยชน์แก่การประกอบและส่งเสริมธุรกิจของ กปภ.
(๙) ออกพันธบัตรหรือตราสารอื่นใดเพื่อการลงทุน
(๑๐) ถือหุ้นหรือเข้าเป็นหุ้นส่วนหรือร่วมกิจการกับบุคคลอื่นเพื่อประโยชน์แก่การประกอบและส่งเสริมธุรกิจของ กปภ.
- “คณะกรรมการการประปาส่วนภูมิภาค” มีกี่คน
- 12 คน                                                                   ค. 10    คน
- 11 คน                                                                   ง. 13  คน
ตอบ   ข. 11  คน         
มาตรา ๑๒ ให้ มีคณะกรรมการคณะหนึ่งเรียกว่า “คณะกรรมการการประปาส่วนภูมิภาค” ประกอบด้วยประธานกรรมการ อธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง* อธิบดีกรมอนามัย ผู้ว่าการ และกรรมการอื่นอีกไม่เกินเจ็ดคน เป็นกรรมการ
- “คณะกรรมการการประปาส่วนภูมิภาค” มีวาระอยู่ในตำแหน่งคราวละกี่ปี
- 4 ปี                                                                        ค. 2  ปี
- 3 ปี                                                                        ง.  1  ปี
ตอบ       ข.3  ปี
มาตรา ๑๕ ให้ประธานกรรมการหรือกรรมการซึ่งคณะรัฐมนตรีแต่งตั้งอยู่ในตำแหน่งคราวละสามปี
- ข้อใด ไม่ใช่ อำนาจหน้าที่ของ“คณะกรรมการการประปาส่วนภูมิภาค”
- กำหนดราคาจำหน่ายน้ำประปาและอัตราค่าบริการ ตลอดจนวิธีการและเงื่อนไขในการชำระราคาและค่าบริการ
- กำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการใช้น้ำประปา เพื่อประโยชน์ในการให้บริการสาธารณูปโภค
- วางข้อบังคับว่าด้วยการปฏิบัติงานของผู้ว่าการ และการมอบให้ผู้อื่นปฏิบัติงานแทนผู้ว่าการ
- ถูกทุกข้อ
ตอบ   ง. ถูกทุกข้อ
มาตรา ๑๗ ให้คณะกรรมการมีอำนาจหน้าที่วางนโยบายและควบคุมดูแลทั่วไปซึ่งกิจการของ กปภ. อำนาจหน้าที่เช่นว่านี้ให้รวมถึง
(๑) วางข้อบังคับเพื่อปฏิบัติการให้เป็นไปตามมาตรา ๕ และมาตรา ๗
(๒) วางข้อบังคับว่าด้วยการประชุม และการดำเนินกิจการของคณะกรรมการและคณะอนุกรรมการ
(๓) วางข้อบังคับว่าด้วยการจัดแบ่งส่วนงานของ กปภ. และวางข้อบังคับว่าด้วยการบริหารงานต่าง ๆ ของ กปภ.
(๔) วางข้อบังคับว่าด้วยการปฏิบัติงานของผู้ว่าการ และการมอบให้ผู้อื่นปฏิบัติงานแทนผู้ว่าการ
(๕) วางข้อบังคับกำหนดตำแหน่ง อัตราเงินเดือน ค่าจ้าง และเงินอื่น ๆ ของพนักงานและลูกจ้าง
(๖) วางข้อบังคับว่าด้วยการบรรจุ การแต่งตั้ง การเลื่อนขั้นเงินเดือนหรือค่าจ้าง การถอดถอน ระเบียบวินัย การลงโทษและการอุทธรณ์การลงโทษของพนักงานและลูกจ้าง
(๗) วางข้อบังคับว่าด้วยการร้องทุกข์ของพนักงานและลูกจ้าง
(๘) วางข้อบังคับว่าด้วยกองทุนสงเคราะห์หรือการสงเคราะห์อื่นเพื่อสวัสดิการของ พนักงานและลูกจ้างและครอบครัว โดยได้รับความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี
(๙) วางข้อบังคับว่าด้วยการจ่ายค่าพาหนะ เบี้ยเลี้ยงเดินทาง ค่าเช่าที่พัก ค่าทำงานล่วงเวลา เบี้ยประชุม และการจ่ายเงินอื่น ๆ
(๑๐) วางข้อบังคับว่าด้วยเครื่องแบบพนักงานและลูกจ้าง
(๑๑) กำหนดราคาจำหน่ายน้ำประปาและอัตราค่าบริการ ตลอดจนวิธีการและเงื่อนไขในการชำระราคาและค่าบริการ
(๑๒) วางข้อบังคับเกี่ยวกับความปลอดภัยในการใช้และรักษาทรัพย์สินของ กปภ.
- กฎหมายแรงงานสัมพันธ์ฉบับแรกของไทย คือกฎหมายใด
- พระราชบัญญัติแรงงาน พ.ศ. 2499
- พระราชบัญญัติกำหนดวิธีระงับข้อพิพาทแรงงาน พ.ศ.2508
- พระราชบัญญัติแรงงานสัมพันธ์ พ.ศ.2518
- พระราชบัญญัติแรงงานสัมพันธ์ (ฉบับที่ 2 )พ.ศ.2534
ตอบ   ก. พระราชบัญญัติแรงงาน  พ.ศ. 2499   ใช้บังคับเมื่อ  1  มกราคม  พ.ศ. 2500
- ข้อใดคือวัตถุประสงค์ของกฎหมายแรงงานสัมพันธ์ในหลักใหญ่
- กำหนดหลักเกณฑ์และขั้นตอนเกี่ยวกับการแจ้งข้อเรียกร้องและการระงับข้อพิพาทแรงงานระหว่างนายจ้างและลูกจ้าง
- ให้สิทธิแก่นายจ้างและลูกจ้างในการจัดตั้งองค์กรของตนเพื่อแสวงหาและคุ้มครองประโยชน์เกี่ยวกับการจ้างและการทำงานและส่งเสริมความสัมพันธ์อันดีระหว่างสองฝ่าย
- ให้ความคุ้มครองแก่นายจ้างและลูกจ้างที่ดำเนินกิจกรรม
- ถูกทุกข้อ
ตอบ   ง. ถูกทุกข้อ
- สถานประกอบการที่มีลูกจ้างตั้งแต่จำนวนเท่าใด ต้องจัดให้มีข้อตกลงเกี่ยวกับสภาพการจ้างไว้เป็นหนังสือ
- 50 คนขึ้นไป                                 ค. 30  คนขึ้นไป
- 20 คนขึ้นไป                                 ง. 60  คนขึ้นไป
ตอบ   ข. 20  คนขึ้นไป
- จากข้อ 3  อายุของข้อตกลงมีผลบังคับใช้ภายในระยะเวลาใด
- ภายในระยะเวลาที่ทั้งสองฝ่ายตกลงกันแต่ไม่เกิน 1  ปี
- ภายในระยะเวลาที่ทั้งสองฝ่ายตกลงกันแต่ไม่เกิน 2  ปี
- ภายในระยะเวลาที่ทั้งสองฝ่ายตกลงกันแต่ไม่เกิน 3  ปี
- ภายในระยะเวลาที่ทั้งสองฝ่ายตกลงกันแต่ไม่เกิน 4  ปี
ตอบ   ค.ภายในระยะเวลาที่ทั้งสองฝ่ายตกลงกันแต่ไม่เกิน  3  ปี
- ถ้าเป็นข้อเรียกร้องของฝ่ายลูกจ้างต้องมีรายชื่อและลายมือชื่อของลูกจ้างซึ่งเกี่ยวข้องไม่น้อยกว่าเท่าใดของลูกจ้างทั้งหมด
- ไม่น้อยกว่า 20 %                                               ค. ไม่น้อยกว่า  15 %
- ไม่น้อยกว่า 10 %                                               ง. ไม่น้อยกว่า  30 %
ตอบ   ค. ไม่น้อยกว่า  15 %
- หากตกลงกันได้เกี่ยวกับสภาพการจ้างนายจ้างและลูกจ้างต้องทำอย่างไร
- ทำข้อตกลงเป็นหนังสือแจ้งอีกฝ่ายหนึ่งทราบ
- ให้นายจ้างประกาศข้อตกลงโดยเปิดเผยไว้ ณ สถานที่ลูกจ้างทำงานอยู่เป็นเวลา 30 วัน โดยเริ่มประกาศภายใน 3  วันนับแต่วันที่ตกลงกัน
- นายจ้างต้องนำข้อตกลงไปจดทะเบียนภายใน 15  วันนับแต่วันที่ตกลงกันได้
- ถูกทุกข้อ
ตอบ   ง. ถูกทุกข้อ
- ข้อพิพาทแรงงานเกิดขึ้นเมื่อใด
- ยังไม่ได้มีการเจรจา
- เจรจากันแล้วแต่ตกลงกันไม่ได้
- ไม่มีการเจรจากันภายใน 3  วัน
- ถูกเฉพาะข้อ ข  และ  ค
ตอบ   ง.ถูกเฉพาะข้อ  ข  และ  ค
- พนักงานประนอมข้อพิพาทแรงงานต้องดำเนินการไกล่เกลี่ยให้ตกลงกันภายในกี่วัน นับแต่วันที่ได้รับแจ้ง
- 7 วัน                                          ค. 14  วัน
- 3 วัน                                          ง. 5  วัน
ตอบ  ง. 5  วัน
- คณะกรรมการลูกจ้าง หมายถึง
- คณะผู้แทนของลูกจ้างที่เกิดขึ้นโดยสมัครใจ
- คณะผู้แทนของลูกจ้างที่เกิดขึ้นโดยการคัดเลือก
- คณะผู้แทนของลูกจ้างที่เกิดขึ้นโดยการคัดเลือกและสมัครใจ
- คณะผู้แทนของลูกจ้างที่เกิดขึ้นโดยการเลือกตั้ง
ตอบ   ก. คณะผู้แทนของลูกจ้างที่เกิดขึ้นโดยสมัครใจ
- นายจ้างต้องจัดให้มีการประชุมหารือกับคณะกรรมการลูกจ้างอย่างน้อยเท่าใด
- เดือนละครั้ง ค. 3  เดือนต่อครั้ง
- 2 เดือนต่อครั้ง                               ง. 4  เดือนต่อครั้ง
ตอบ    ค. 3  เดือนต่อครั้ง
- ข้อห้ามสำหรับนายจ้างต่อคณะกรรมการลูกจ้างมีอะไรบ้าง
- ห้ามเลิกจ้าง ลดค่าจ้าง  ลงโทษ
- ห้ามให้หรือตกลงจะให้เงินหรือทรัพย์สินแก่กรรมการลูกจ้าง
- กระทำการใดๆอันเป็นผลให้กรรมการลูกจ้างไม่สามารถทำงานต่อไปได้
- ถูกทุกข้อ
ตอบ   ง. ถูกทุกข้อ
- ข้อใดกล่าวถูกต้องเกี่ยวกับสมาคมนายจ้าง
- เป็นองค์กรที่นายจ้างสมัครใจร่วมกันจัดตั้ง
- เป็นองค์กรที่ดำเนินการในรูปแบบประชาธิปไตย
- เป็นองค์กรที่นายจ้างและลูกจ้างร่วมกันจัดตั้งโดยดำเนินการในรูปแบบประชาธิปไตย
- ถูกทั้ง ก และ  ข
ตอบ   ง. ถูกทั้ง  ก และ  ข
- การขอจดทะเบียนสมาคมนายจ้าง นายจ้างต้องมีจำนวนไม่น้อยกว่าเท่าใด
- ไม่น้อยกว่า 3  คน                           ค. ไม่น้อยกว่า  2  คน
- ไม่น้อยกว่า 5  คน                           ง. ไม่น้อยกว่า  10  คน
ตอบ  ก. ไม่น้อยกว่า  3  คน   
- สมาคมนายจ้างถูกเลิก ด้วยเหตุใดบ้าง
- ล้มละลาย ค. มติที่ประชุมใหญ่
- นายทะเบียนมีคำสั่งให้เลิก ง. ถูกทุกข้อ
ตอบ   ง. ถูกทุกข้อ
- นายทะเบียนมีอำนาจสั่งเลิกสมาคมนายจ้างในกรณีใด
- ไม่ดำเนินกิจการติดต่อกันเป็นเวลา 2  ปี
- เมื่อนายทะเบียนมีคำสั่งให้เลือกตั้งกรรมการขึ้นใหม่ทั้งคณะ
- ดำเนินการขัดต่อวัตถุประสงค์ ขัดต่อกฎหมายหรือเป็นภัยต่อเศรษฐกิจหรือความมั่นคงประเทศ
- ถูกทุกข้อ
ตอบ  ง. ถูกทุกข้อ
- สหภาพแรงงานจัดตั้งขึ้นเพื่ออะไร
- เป็นตัวกลางในการสร้างความสัมพันธ์อันดีในสถานประกอบกิจการ
- เป็นตัวแทนของลูกจ้างในการเจรจาต่อรองกับนายจ้างให้ลูกจ้างได้รับประโยชน์เกี่ยวกับสภาพการจ้าง
- กำหนดข้อบังคับในการทำงานพิจารณาคำร้องทุกข์และหาทางระงับข้อขัดแย้งในสถานประกอบกิจการ
- ถูกทั้ง ก  และ  ข
ตอบ  ง. ถูกทั้ง  ก  และ  ข
- ข้อใด ไม่ใช่ ประเภทของสหภาพแรงงาน
- สหภาพแรงงานที่มีสมาชิกเป็นลูกจ้างของนายจ้างคนเดียวกัน
- สหภาพแรงงานที่มีสมาชิกเป็นลูกจ้างทำงานในกิจการประเภทเดียวกันโดยไม่คำนึงว่าจะมีนายจ้างกี่คน
- สหภาพแรงงานที่มีสมาชิกเป็นลูกจ้างทำงานในกิจการคนละประเภท
- เป็นประเภทของสหภาพแรงงานทุกข้อ
ตอบ   ค. สหภาพแรงงานที่มีสมาชิกเป็นลูกจ้างทำงานในกิจการคนละประเภท
- สหภาพแรงงานแบ่งออกเป็นกี่ระดับ
- ระดับเดียว ค. 3  ระดับ
- 2 ระดับ                                                                                ง. 4  ระดับ
ตอบ   ข. 2  ระดับ    คือ   1.สหภาพแรงงานที่มีสมาชิกเป็นลูกจ้างในระดับผู้บังคับบัญชามีอำนาจในการจ้าง การลดค่าจ้าง  การเลิกจ้าง  การให้บำเหน็จหรือการลงโทษ   2. สหภาพแรงงานที่มีสมาชิกเป็นลูกจ้างซึ่งไม่มีอำนาจบังคับบัญชา
- ข้อใด ไม่ใช่ คุณสมบัติของสมาชิกสหภาพแรงงาน
- เป็นลูกจ้างของนายจ้างคนเดียวกันกับผู้ขอจดทะเบียนสหภาพแรงงาน
- เป็นลูกจ้างซึ่งทำงานในกิจการประเภทเดียวกันกับผู้ขอจดทะเบียนสหภาพแรงงาน
- มีอายุตั้งแต่ 15  ปีขึ้นไป
- มีอายุตั้งแต่ 18  ปีขึ้นไป
 
ตอบ   ง. มีอายุตั้งแต่  18  ปีขึ้นไป
- คอมพิวเตอร์คืออะไร
ก.  ระบบโปรแกรมการทำงาน
ข.  การคำนวณ
ค.  เครื่องจักรอิเล็กทรอนิกส์ที่ทำงานตามขั้นตอนของโปรแกรม
ง.   อุปกรณ์ที่ประกอบขึ้นเป็นเครื่องคอมพิวเตอร์
ตอบ  ค.  เครื่องจักรอิเล็กทรอนิกส์ที่ทำงานตามขั้นตอนของโปรแกรม
- ฮาร์ดแวร์คอมพิวเตอร์คืออะไร
ก.  อุปกรณ์ที่ประกอบขึ้นเป็นเครื่องคอมพิวเตอร์ระบบโปรแกรมการทำงาน
ข.  การคำนวณ
ค.  เครื่องจักรอิเล็กทรอนิกส์ที่ทำงานตามขั้นตอนของโปรแกรม
ง.   ระบบโปรแกรมการทำงาน
ตอบ     ก.  อุปกรณ์ที่ประกอบขึ้นเป็นเครื่องคอมพิวเตอร์ระบบโปรแกรมการทำงาน
- ซอฟต์แวร์คอมพิวเตอร์คืออะไร
ก.  อุปกรณ์ที่ประกอบขึ้นเป็นเครื่องคอมพิวเตอร์ระบบโปรแกรมการทำงาน
ข.  โปรแกรมหรือชุดคำสั่งที่สั่งให้คอมพิวเตอร์ทำงาน
ค.  เครื่องจักรอิเล็กทรอนิกส์ที่ทำงานตามขั้นตอนของโปรแกรม
ง.   ระบบโปรแกรมการทำงาน
ตอบ     ข.  โปรแกรมหรือชุดคำสั่งที่สั่งให้คอมพิวเตอร์ทำงาน
- การวัดขนาดข้อมูล 8 Bit มีค่าเท่ากับ
 ก. 10 Byte
 ข.  100 Byte
 ค.  1 Byte
 ง.   1024 Byte
ตอบ     ค.  1 Byte
- การวัดขนาดข้อมูล 1 KB(กิโลไบต์) มีค่าเท่ากับ
 ก. 1024 KB
 ข.  1024 MB
 ค.  1024 Byte
 ง.  1024 Byte
 ตอบ  ค.  1024 Byte
- การวัดขนาดข้อมูล 1 MB(เมกกะไบต์) มีค่าเท่ากับ
 ก. 1024 KB
 ข.  1024 MB
 ค.  1024 Byte
 ง.  1024 Byte
ตอบ     ก.  1024 KB
- การวัดขนาดข้อมูล 1 GB(กิกะไบต์) มีค่าเท่ากับ
 ก. 1024 KB
 ข.  1024 MB
 ค.  1024 Byte
 ง.  1024 Byte
ตอบ  ข.  1024 MB
- การวัดขนาดข้อมูล 1 TB(เทราไบต์) มีค่าเท่ากับ
 ก. 1024 KB
 ข.  1024 MB
 ค.  1024 GB
 ง.  1024 Byte
ตอบ     ค.  1024 GB
- RAM คืออะไร
 ก. หน่วยความจำถาวรที่ติดตั้งมาพร้อมกับแผงเมนบอร์ด
 ข.  หน่วยความจำเสมือน
 ค.  หน่วยความจำจำลองที่ทำงานแทนเมนบอร์ด
 ง.   หน่วยความจำชั่วคราวที่สามารถอ่านและเขียนข้อมูลได้
ตอบ    ง.   หน่วยความจำชั่วคราวที่สามารถอ่านและเขียนข้อมูลได้
- ROM คืออะไร
ก.  หน่วยความจำถาวรที่ติดตั้งมาพร้อมกับแผงเมนบอร์ด
ข.  หน่วยความจำเสมือน
ค.  หน่วยความจำจำลองที่ทำงานแทนเมนบอร์ด
ง.   หน่วยความจำชั่วคราวที่สามารถอ่านและเขียนข้อมูลได้
ตอบ  ก.  หน่วยความจำถาวรที่ติดตั้งมาพร้อมกับแผงเมนบอร์ด
- ข้อมูล คืออะไร
 ก. ข้อมูลที่ได้รับการกรอง และเรียบเรียง ที่สามารถนำไปใช้งานได้
 ข.  ความเป็นจริงที่ยังเป็นข้อมูลดิบซึ่งไม่ได้ผ่านการประมวลผลใด ๆ
 ค.  ข้อมูลที่ประมวลผลแล้ว
 ง.   ผลลัพท์ของการทำงาน
ตอบ  ข.  ความเป็นจริงที่ยังเป็นข้อมูลดิบซึ่งไม่ได้ผ่านการประมวลผลใด ๆ
- ข้อมูลสารสนเทศ คืออะไร
ก.  ข้อมูลที่ได้รับการกรอง และเรียบเรียง ที่สามารถนำไปใช้งานได้
ข.  ความเป็นจริงที่ยังเป็นข้อมูลดิบซึ่งไม่ได้ผ่านการประมวลผลใด ๆ
ค.  ข้อมูลที่ประมวลผลแล้ว
ง.   ผลลัพท์ของการทำงาน
ตอบ  ก.  ข้อมูลที่ได้รับการกรอง และเรียบเรียง ที่สามารถนำไปใช้งานได้
- ข้อใดไม่ใช่ระบบปฏิบัติการ
ก.  Microsoft Windows98
ข.  Microsoft Windows ME
ค.  Microsoft Windows XP
ง.  Microsoft Office
ตอบ    ง.  Microsoft Office
- ในปัจจุบันนิยมใช้ระบบปฏิบัติการอะไรมากที่สุด
 ก. Microsoft Windows98
 ข.  Microsoft Windows ME
 ค.  Microsoft Windows XP
 ง.  Microsoft Office
ตอบ     ค.  Microsoft Windows XP
- ระบบปฏิบัติการ Microsoft Windows XP ได้พัฒนาต่อจากระบบปฎิบัตการอะไร
 ก. Microsoft Windows98
 ข.  Microsoft Windows ME
 ค.  Microsoft Windows XP
ง.  Microsoft Office
ตอบ       ข.  Microsoft Windows ME
- MOUSE คืออะไร
 ก. เครื่องพิมพ์
 ข.  อุปกรณ์นำเข้าข้อมูล เพื่อให้เราสามารถป้อนคำสั่งต่าง ๆ ได้
 ค.  อุปกรณ์สื่อสาร
 ง.  อุปกรณ์แสดงผล
ตอบ  ข.  อุปกรณ์นำเข้าข้อมูล เพื่อให้เราสามารถป้อนคำสั่งต่าง ๆ ได้
- ถ้าต้องการสลับปุ่มการทำงานซ้าย-ขวา ของเม้าส์ต้องคลิกปรับที่หัวข้อใด
ก.  Button configulation
ข.  Double-click Speed
ค.  Click Lock
ง.  Click
ตอบ   ก.  Button configulation
- ถ้าต้องการปรับความเร็วในการดับเบิ้ลคลิกให้ช้าหรือเร็ว ของเม้าส์ต้องคลิกปรับที่หัวข้อใด
 ก. Button configulation
 ข.  Click
 ค.  Click Lock
ง.  Double-click Speed
ตอบ  ง.  Double-click Speed
- ถ้าต้องการคลิกลากโดยไม่ต้องคลิกเม้าส์ค้างไว้ต้องปรับที่หัวข้อใด
 ก. Button configulation
 ข.  Double-click Speed
 ค.  Click
 ง.  Click Lock
ตอบ  ง.  Click Lock
- คำสั่งใดที่ใช้ในการลบไฟล์
 ก. Delete
 ข.  Rename
 ค.  Open
 ง.  Save
ตอบ ก.  Delete
